ใครที่ชอบเรื่องราวลี้ลับ เกี่ยวกับแวมไพร์ แม่มด พ่อมด ปีศาจ ต้องเคยได้ยินเรื่องแวมไพร์กันมาบ้าง และแวมไพร์ยังเป็นคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ ละคร หรือเกมสล็อตอย่าง Vampire’s Charm ค่าย PG ให้เหล่านักเดิมพันสล็อตเครดิตฟรีได้เล่นกันอย่างเฮงๆ รวยๆ กันทั่วหน้า
บทความนี้ Lucabetkub จะมานำเสนอเกี่ยวกับตำนานแวมไพร์ในอดีตที่คนโบราณเชื่อว่ามีอยู่จริง แล้วแวมไพร์คือตัวอะไร เป็นมนุษย์ที่ดื่มเลือด หรือเป็นปีศาจกันแน่ วันนี้เราจะมาค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
[ez-toc]
แวมไพร์ หรือ ผีดูดเลือด ที่เราเรียกๆ กัน ด้วยลักษณะของแวมไพร์ที่เรามักจะคุ้นเคยกันดีคือการดื่มเลือดของมนุษย์เป็นอาหาร หรือบางตำนานก็เล่าว่าแวมไพร์บางตนไม่ดื่มเลือดมนุษย์ แต่ดื่มเลือดสัตว์ป่าแทน ซึ่งเจ้าแวมไพร์ได้ปรากฏขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์โลกครั้งแรกที่อาณาจักรบาบิโลเนีย ในหีบศพที่ถูกปิดตายมานานกว่า 4,000 ปี! ซึ่งตำนานเกี่ยวกับแวมไพร์ก็ยังมีอีกในหลายประเทศ เช่น อินเดีย จีน กรีก โรมัน มาเลเซีย หรือแม้กระทั่งในประเทศไทยเอง
ในประเทศมาเลียเซียมีความเชื่อว่า ผู้หญิงที่เสียชีวิตในขณะคลอดลูกหรือหลังคลอดลูก เมื่อตายไปจะกลายเป็นผีดูดเลือด และลูกที่ตายไปพร้อมกันก็จะเป็นผีดูดเลือดด้วย ในตำนานของไทยที่พวกเราชาวสล็อตเครดิตฟรีรู้จักก็จะเป็นกระสือ หรือปอบ ที่เชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบันในบางท้องถิ่น
ในซีกโลกตะวันตกมีความเชื่อที่ว่า ผีดูดเลือด หรือ แวมไพร์ ปรากฏขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2275 ตามบันทึกเขียนไว้ว่า แวมไพร์เป็นชาวเซอร์เบียร์ที่กลับมาจากหน้าที่ทางการทหารในกรีก และมีท่าทีที่แปลกไป เขาคนนั้นมีชื่อว่า อาร์โนลด์ เปาเล (Arnold Paole) ซึ่งเขาได้ยอมรับกับภรรยาในเวลาต่อมาว่า “เขาโดนแวมไพร์ดูดเลือดในขณะที่เดินทาง! และเขาก็ได้กลายเป็นแวมไพร์ในที่สุด”
แต่ในเวลาต่อมา อาร์โนลด์ เปาเล ก็ได้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้ว เพื่อนบ้านยังคงเห็นเขาใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในบ้าน ศพของเขาถูกขุกขึ้นมาแล้วพบว่ามีรอยเลือดอยู่ที่บริเวณปาก ในสมัยนั้นการที่จะพิสูจน์ว่าเขาเป็นแวมไพร์จริงหรือไม่นั้น ทำได้ด้วยการตอกหมุดดอกไม้ลงไปที่หัวใจของศพเปาโล
ในขณะที่ตอกหมุดนั้นกลับมีเลือดทะลักออกมาและมีเสียงกรีดร้องตามมาด้วย ต่อมาศพของเปาเลถูกเผาตามขั้นตอนของพิธีกรรมตามความเชื่อ แต่หลายปีต่อมาก็ยังมีกรณีแวมไพร์ตนอื่นๆ อยู่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเหยื่อของเปาเล คนในสมัยนั้นจึงสรุปไว้ว่า แวมไพร์สามารถถ่ายทอดกันได้จากการถูกแวมไพร์กัด
บันทึกในปี พ.ศ. 2306 ของนักเขียนชาวฝรั่งเศสนามว่า ฌอง จาก รูสโซ (Jean-Jacques Rousseau) ได้บันทึกเอาไว้ว่า ในปีนั้นมีพยานหลายคนทั้งที่เป็นแพทย์ นักบวช และพนักงานปกครอง ได้พบเห็นแวมไพร์ จนเรื่องราวนั้นได้ถูกนำเป็นแต่งเป็นวรรณกรรม จนกระทั่งในค้นพุทธศตวรรษที่ 24 แวมไพร์ก็ได้ถูกยอมรับว่ามีอยู่จริง โดยมีทั้งหญิงและชาย แต่ส่วนมากจะเป็นเพศชาย ลักษณะมีเขี้ยวยาว ผิวซีดเซียว และมีดวงตาแข็งกระด้าง มักออกหาเหยื่อในเวลากลางคืน และเหยื่อจะเป็นเพศตรงข้ามตนเองเสมอ ซึ่งคนที่จะกลายเป็นแวมไพร์ได้นั้น มักจะเป็นคนบาปที่ดำเนินชีวิตอย่างชั่วร้าย แต่คนบริสุทธิ์ก็สามารถเป็นแวมไพร์ได้จากการตกเป็นเหยื่อของพวกนั้นอีกทีหนึ่ง
ในสมัยก่อนคนจะเชื่อกันว่า บุคคลใดที่มีความแตกต่างไปจากคนอื่นและมีการตายอย่างประหลาดนั้น จะถูกเชื่อว่าเป็นแวมไพร์อย่างแน่นอน และบุคคลใดที่มีลักษณะคล้ายกับแวมไพร์ก็จะถูกสังคมกีดกัด และการกำจัดแวมไพร์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องทำในเวลากลางวันตอนที่แหล่าแวมไพร์อ่อนอำนาจเท่านั้น และยังเชื่ออีกว่าหลุมศพใดมีโพรงอยู่ แสดงว่าศพในหลุมนั้นเป็นแวมไพร์ โดยความเชื่อของชาวโรมันเชื่อว่า ให้เทน้ำเดือดลงไปในโพรงเพื่อกำจัดแวมไพร์ หรือกำจัดได้โดยวิธีเดียวกันกับที่ทำกับเปาเล
ในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 19 นักเขียนชาวไอริช บราม สโตกเกอร์ (Bram Stoker) ได้แต่งนิยายเรื่อง แดร็กคูลา (Dracula) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นอีกชื่อหนึ่งของแวมไพร์ ซึ่งแดร็กคูลา เป็นลูกชายของ แดร็กคูล กษัตริย์โรมันที่โหดร้าย ทารุณ โดยชื่อแดร็กคูลเป็นสมญานามที่มีความหมายว่า ปีศาจ ซึ่งมาจากการปกครองที่โหดร้าย กระหายเลือด และแดร็กคูลา ก็มีความหมายว่า ลูกชายของปีศาจ
ในนิยาย แดร็กคูลา ถือกำเนิดขึ้นในทรานซิลวาเนีย (Transylvania) และมีความโหดร้ายเช่นเดียวกับพระบิดาของตน ได้สร้างศัตรูไว้มากมาย และมีการตายอย่างลึกลับ ไม่มีใครพบเห็นศพและไม่ได้ถูกฝังตามพิธี จนปัจจุบันเรื่องราวของแวมไพร์ก็ยังคนได้รับความสนใจจากชาวโลก และในหมู่นักเดิมพันสล็อตเครดิตฟรี ทั้งยังสร้างความเชื่อว่าแวมไพร์มีอยู่จริง ถึงขั้นมีศูนย์วิจัยแวมไพร์ ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเรื่องแวมไพร์อย่างจริงจังในแถมยุโรปและอเมริกาอีกด้วย