6 ตำนานวันคริสต์มาสกับเกมสล็อตpg Santa’s Gift Rush

วีวิชยูอะแมรี่คริสต์มาส! ประโยคนี้เราต้องเคยได้ยินกันทุกปีเมื่อวันคริสต์มาสวนเวียนมาถึงในเดือนธันวาคม Lucabetkub เชื่อว่ามีนักเดิมพันสล็อตเครดิตฟรีหลายท่านชื่นชอบเดือนธันวาคมเป็นพิเศษ เพราะเป็นเดือนแห่งเทศกาล บรรยากาศตลอดทั้งเดือนเต็มไปด้วยความอบอุ่น และทางเว็บสล็อต Lucabetkub เองก็ปล่อยโปรโมชั่นกระหน่ำส่งท้ายปีกันทุกปีไม่เคยขาด เรียกได้ว่าเดือนธันวาคมเป็นเดือนที่ครึกครื้นกันมากๆ เลยล่ะค่ะ

วันนี้ Lucabetkub จะมาเล่าเกี่ยวกับตำนานวันคริสต์มาสที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน เทศกาลโปรดของนักเดิมพันสล็อตเครดิตฟรีหลายๆ ท่าน จะมีเรื่องอะไรกันบ้าง มาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

[ez-toc]

1. Krampus

เชื่อกันว่า Krampus นั้น คือด้านมืดของซานค้าคลอส! ความเชื่อเรื่องนี้เริ่มมาจากตอนกลางของยุโรป และไม่มีต้นกำเนิดที่แท้จริงที่ชัดเจนนัก แต่นักวิชาการยอมรับว่าความเชื่อเกี่ยวกับ Krampus ว่ามีมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลแล้ว ชื่อของ Krampus มาจากภาษาเยอรมัน แปลว่า กรงเล็บ ทำให้รูปลักษณ์ของ Krampus ตามความเชื่อเป็นปีศาจที่มีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดน่ากลัวที่มาพร้อมกับกรงเล็บขนาดใหญ่ มีเขาทั้งสองข้าง มีลิ้นยาว โดยชาวบ้านเชื่อกันว่ามันจะออกมาจับเด็กใส่ถุงใบใหญ่เพื่อนำกลับไปกินเป็นอาหาร

แต่ว่ามีส่วนหนึ่งที่จัดงานเฉลิมฉลองให้ Krampus โดยการแต่งตัวเลียนแบบรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดน่ากลัวตามความเชื่อในช่วงก่อนวันคริสต์มาส เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่เทศกาลคริสต์มาส โดยจะเริ่มการเฉลิมฉลองตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม แต่ส่วนใหญ่จะเริ่มในช่วง Krampus Night หรือ Krampusnacht ซึ่งก็คือวันก่อนวันเสียชีวิตของเซนต์นิโคลัส หรือคืนก่อนวันที่ 6 ธันวาคมนั่นเอง

2. Belsnickel

เราอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อ Belsnickel หรือคุ้นหูกันมากนัก Bels มาจากคำว่า ขน ในภาษาเยอรมัน ส่วน Nickel หมายถึง ซานตาคลอส เมื่อมารวมกัน Belsnickel ก็คือซานตาตลอสในความเชื่อของยุโรปนั่นเอง ตามความเชื่อในเรื่องเล่าพื้นบ้านของเยอรมัน Belsnickel จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อแจกขนมและของขวัญให้แก่เด็กๆ เหมือนซานตาคลอส แต่ในขณะเดียวกันถ้าเจอเด็กที่นิสัยไม่ดีเมื่อไหร่ รูปลักษณ์ที่ใจดีก็จะเปลี่ยนไปทันที เสื้อผ้าของเขาจะสกปรก น่ากลัว และเทนที่จะแจกของขวัญให้แก่เด็กนิสัยไม่ดีคนนั้น แต่จะลงโทษเพื่อให้เด็กนิสัยไม่ดีเหล่านั้นหวาดกลัวแทน

3. La Befana

La Befana มีหน้าตาที่ค่อนข้างหน้ากลัว เพราะเธอเป็นแม่มด แต่กลับใจดีต่างจากรูปลักษณ์นั้นอย่างสิ้นเชิง ในเรื่องเล่าของอิตาลี่ แม่มด La Befana นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเทศกาล Epiphany หรือเทศกาลเฉลิมฉลองก่อนวันคริสต์มาส ในตำนานเล่าว่านักบุญทั้งสามได้ชวน Befana ให้เดินทางไปเบธเลเฮมเพื่อต้อนรับการประสูทของพระเยซู แต่เธอปฏิเสธเพราะตัวเองมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย

และเมื่อเธอตระได้ว่าเธอพลาดอย่างใหญ่หลวงที่ได้ปฏิเสธคำเชิญนั้นไป เธอจึงพยายามเดินทางตามไปกับพวกเขาอีกครั้ง แต่ด้วยความเหนื่อยเมื่อมาถึงเบธเลเฮม เธอจึงทิ้งตัวลงพักผ่อนใต้ต้นไม้ จากนั้นกิ่งไม้ได้กลายเป็นด้ามไม้กวาดวิเศษที่ทำให้เธอสามารถบินไปดูพระเยซูที่เพิ่งประสูทได้

หลังจากนั้นมักจะมีเรื่องเล่าว่า Befana มักจะปรากฏตัวก่อนและหลังเทศกาลคริสต์มาส เพื่อบินไปแจกขนมและของขวัญให้แก่เด็กๆ ด้วยไม้กวาดวิเศษของเธอ จนเธอกลายเป็นซานตาคลอสของชาวอิตาเลี่ยนโบราณ

4. Gryla

แม่มดใจร้ายจากนิทานพื้นบ้านของไอซ์แลนด์ เธอชอบกินเด็กๆ มากกว่าให้ของขวัญพวกเขา เมื่อเทศกาลคริสต์มาสมาถึง เธอจะจับเด็กๆ ลงกระสอบแล้วพาพวกเขากลับไปภูเขาที่เธออาศัยอยู่เพื่อนำเด็ก ๆ ไปต้มเป็นซุป รูปลักษณ์ของ Gryla มักจะปรากฏออกมาในรูปแบบชั่วร้ายเสมอ เธอมีเขาสองข้างบนศีรษะ มีหลายหาง มีจมูกโค้งยาวน่าเกลียด เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความขวัญผวาให้แก่เด็กๆ ชาวไอซ์แลนด์มาตั้งแต่โบราณ ส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันเลยล่ะค่ะ

5. Yule Cat

อีกหนึ่งเรื่องเล่านิทานพื้นบ้านชองไอซ์แลนด์ มีความเชื่อว่า Yule Cat คือสัตว์ประหลาดวันคริสต์มาสที่มีตัวใหญ่ยักษ์ มีรูปร่างเป็นแมวที่ยืนคร่อมตัวบ้านหรือยืนอยู่หน้าบ้านเพื่อเฝ้ามองเด็กๆ ว่าจะได้รับเสื้อผ้าใหม่ในวันคริสต์มาสหรือไม่ หากเหล่าเด็กๆ ได้รับ เจ้า Yule Cat จะไปบ้านต่อไป แต่ถ้าหากไม่ได้รับ มันจะกินเด็กๆ เหล่านั้นทั้งหมด!

6. Mari Lwyd

ปิดท้ายด้วยความเชื่อวันคริสต์มาสของวิญญาณม้าที่ปรากฏตัวในรูปโครงกระดูก ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวเวลส์ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า Mari Lwyd จะปรากฏตัวในรูปหัวกะโหลกม้า ผูกริบบิ้น ระฆัง และแผ่นไม้ เพื่อให้ดูน่ากลัว คลุมกายด้วยผ้าขาว จากนั้นจะเดินไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อร้องเพลงทำการแสดง หรือประลองปัญญากับเหล่าสมาชิกในบ้าน โดยมีความเชื่อว่าหากบ้านไหนมี Mari Lwyd มาเยือน จะโชคดีไปตลอดทั้งปี โดยเรื่องราวของ Mari Lwyd มาจากตำนานม้าขาวของชาวบริติช ซึ่งเป็นตัวแทนของพลังและความอุดมสมบูรณ์