บทความนี้ Lucabetkub จะมาอธิบายถึงรูปแบบวางเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์ ซึ่งดูเผิน ๆ อาจจะดูเหมือนง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ลงฝั่งเจ้ามือ (Banker) หรือผู้เล่น (Player) หากชนะก็ได้เงินแล้วใช่มั้ยคะ แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลากหลายรูปแบบในการใช้วางเดิมพันอีกด้วยนะ หากท่านเป็นนักเดิมพันมือใหม่ บทความนี้ตอบโจทย์มาก!
[ez-toc]
หากเราสังเกตกันดี ๆ เกมไพ่บาคาร่าออนไลน์มีตำแหน่งที่นักเดิมพันสามารถลงวางเดิมพันได้ถึง 19 ตำแหน่ง! ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็จะมีอัตราต่อรองอ๊อด (Odds) ในการจ่ายเงินรางวัลต่างกันไป มีตั้งแต่จ่ายเงินรางวัลที่ 1 เท่า ไปจนถึง 220 เท่า ต่อรอบเลยล่ะค่ะ ซึ่งจะแบ่งออกดังนี้
ในการวางเดินพันในตำแหน่งผู้เล่น (Player) นั้น คือการลงเดิมพันว่าผู้เล่นจะเป็นฝ่ายที่มีแต้มมากกว่าฝั่งเจ้ามือ ยกตัวอย่างเช่น หากท่านวางเดิมพันในตำแหน่งผู้เล่น แล้วผลออกมาว่าผู้เล่นมีแต้ม 9 แต้ม แต่ฝั่งเจ้ามือมี 8 แต้ม ท่านก็จะชนะในการวางเดิมพันในรอบนั้น โดยมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 1 เท่า ของเงินที่ท่านวางเดิมพันลงไปในรอบนั้น ๆ นั่นเองค่ะ
ยกตัวอย่างการวางเดิมพัน : ท่านได้วางเดิมพันในตำแหน่งผู้เล่น (Player) ไว้ที่ 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมาอีก 100 บาท รวมเป็น 200 บาทค่ะ
ในการวางเดิมพันในตำแหน่งของเจ้ามือ (Banker) นั้น คือการลงเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะเป็นฝ่ายที่มีแต้มมากกว่าฝั่งผู้เล่น (Player) เช่นเดียวกับการลงวางเดิมพันในตำแหน่งผู้เล่น หากฝั่งเจ้ามือที่ท่านวางเดิมพันมี 9 แต้ม และฝั่งผู้เล่นมี 8 แต้ม ท่านก็จะชนะในการวางเดิมพันในรอบนั้น และได้รับเงินรางวัลในการลงเดิมพัน ส่วนอัตราต่อรองในฝั่งเจ้ามือ (Banker) นั้น จะอยู่ที่ 0.95 เท่า เนื่องจากการวางเดิมพันในฝั่งเจ้ามือท่านจะเสียค่าคอมมิชชั่น 0.5% ในการวางเดิมพันทุกรอบที่ลงเงินวางเดิมพันฝั่งเจ้ามือนั่นเองค่ะ
ยกตัวอย่างการวางเดิมพัน : ท่านได้วางเดิมพันในตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) ไว้ที่ 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมาอีก 95 บาท รวมเป็น 195 บาทค่ะ
ในส่วนของการวางเดิมพันในตำแหน่งเสมอ (Tie) คือการวางเดิมพันว่ารอบนั้นทั้งฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่นจะมีแต้มเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น หากเจ้ามือมี 9 แต้ม และฝั่งผู้เล่นก็มี 9 แต้มเช่นกัน จะทำให้ผลออกมาเสมอไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม ท่านก็จะได้รับเงินรางวัลในการลงเดิมพันในรอบนั้น ๆ ค่ะ โดยอัตราต่อรองของการวางเดิมพันเสมอนี้จะอยู่ที่ 8 เท่าของเงินที่ท่านลงวางเดิมพันในรอบนั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น : ท่านได้วางเดิมพันในตำแหน่งเสมอ (Tie) ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมาอีก 800 บาท รวมเป็น 900 บาทค่ะ
การวางเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ของฝั่งผู้เล่น (Player) คือ การวางเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งผู้เล่นจะออกมามีหน้าไพ่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น 9,9 ท่านถึงจะชนะการวางเดิมพันในรอบนั้น ๆ และท่านจะได้รับอัตราต่อรองของการวางเดิมพันในตำแหน่งนี้ถึง 11 เท่า
ยกตัวอย่างเช่น : ท่านได้วางเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ของฝั่งผู้เล่น (Player) ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมาอีก 1,100 บาท รวมเป็น 1,200 บาทค่ะ
การวางเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ของฝั่งเจ้ามือ (Banker) นั้น จะเหมือนกับการวางเดิมพันในฝั่งผู้เล่นที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ทุกอย่าง คือ การวางเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเจ้ามือจะออกมามีหน้าไพ่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น 7,7 ท่านถึงจะชนะการวางเดิมพันในรอบนั้น ๆ และท่านจะได้รับอัตราต่อรองของการวางเดิมพันในตำแหน่งนี้ถึง 11 เท่า เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น : ท่านได้วางเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ของฝั่งเจ้ามือ (Banker) ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมาอีก 1,100 บาท รวมเป็น 1,200 บาทค่ะ
เชื่อว่านักเดิมพันบาคาร่าออนไลน์หน้าใหม่อาจจะยังไม่คุ้นเคยชื่อในการวางเดิมพันในตำแหน่งนี้ ซึ่งการวางเดิมพันในตำแหน่ง Perfect Pair คือ การเดิมพันว่าไพ่ทั้ง 2 ใบแรกของทั้งฝั่งผู้เล่น (Player) และฝั่งเจ้ามือ (Banker) จะออกมามีหน้าไพ่ที่เหมือนกัน โดยที่ทั้ง 2 ฝั่งสามารถมีหน้าแต้มที่ต่างกันได้ อย่างเช่น ฝั่งผู้เล่นได้รับไพ่ 9,9 และฝั่งเจ้ามือได้รับไพ่ 8,8 ท่านถึงจะชนะการวางเดิมพันในรอบนั้น ๆ โดยมีอัตราต่อรองในการลงวางเดิมพันสูงอยู่ที่ 25 เท่า ของเงินวางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น : ท่านได้วางเดิมพันในตำแหน่ง Perfect Pair ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมาอีก 2,600 บาท รวมเป็น 2,700 บาทค่ะ
หากท่านวางเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ คือ การวางเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งใดฝั่งหนึ่งระหว่างฝั่งผู้เล่น (Player) และฝั่งเจ้ามือ (Banker) จะออกมามีหน้าไพ่ที่เหมือนกัน อย่างเช่น ในการแจกไพ่ในรอบนั้น ๆ หากมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีหน้าไพ่ออกมาเป็นไพ่คู่ หรือไพ่ที่หน้าเหมือนกัน (8,8 9,9 K,K J,J ฯลฯ) ท่านถึงจะชนะการวางเดิมพันในรอบนั้น ๆ โดยมีอัตราต่อรองในการลงวางเดิมพันอยู่ที่ 5 เท่า ของเงินวางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น : ท่านวางเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมา 500 บาท รวมเป็น 600 บาทค่ะ
ในการวางเดิมพันในตำแหน่งต่ำ คือ การวางเดิมพันว่าการเดิมพันในรอบนั้น ๆ จะไม่มีฝ่ายไหนเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม และจบรอบด้วยไพ่เพียง 4 ใบเท่านั้น โดยจะมีอัตราต่อรองในการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 1.5 เท่า ของเงินวางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น : ท่านวางเดิมพันในตำแหน่งต่ำ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับคืนมา 105 บาท รวมเป็น 205 บาทค่ะ
ในการวางเดิมพันในตำแหน่งสูง คือ การวางเดิมพันว่าการเดิมพันในรอบนั้นจะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งระหว่างฝั่งผู้เล่นและเจ้ามือเรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม หรือเป็นการวางเดิมพันว่าจะจบรอบนั้นด้วยไพ่มากกว่า 4 ใบ โดยมีอัตราต่อรองจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 0.54 เท่าของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น : ท่านวางเดิมพันตำแหน่งสูง ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมาเพิ่ม 54 บาท รวมเป็น 154 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าในรอบนั้นทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 0 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 150 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 15,000 บาท รวมเป็น 15,100 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 1 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 215 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 21,000 บาท รวมเป็น 21,100 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 2 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 220 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 22,000 บาท รวมเป็น 22,100 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 3 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 200 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 20,000 บาท รวมเป็น 20,100 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 4 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 120 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 12,000 บาท รวมเป็น 12,100 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 5 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 110 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 11,000 บาท รวมเป็น 11,100 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 6 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 45 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 4,600 บาท รวมเป็น 4,700 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 7 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 45 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 4,500 บาท รวมเป็น 4,600 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 8 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 80 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 8,000 บาท รวมเป็น 8,100 บาทค่ะ
คือการวางเดิมพันว่าทั้งฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะเสมอกันที่ 9 แต้ม เท่ากัน ท่านจะได้รับอัตราต่อรองวางเดิมพันอยู่ที่ 80 เท่า ของเงินที่วางเดิมพันทั้งหมดในรอบนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านวางเดิมพันด้วยเงินจำนวน 100 บาท ท่านจะได้รับกลับมา 8,000 บาท รวมเป็น 8,100 บาทค่ะ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่านักเดิมพันหน้าใหม่รู้วิธีการเล่นเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์กันมากขึ้นแล้วใช่มั้ยคะว่ามีตำแหน่งไหนบ้างที่เราสามารถลงวางเดิมพันได้ ซึ่งในแต่ละตำแหน่งก็มีอัตราต่อรองในการวางเดิมพันไม่เท่ากัน แต่ถ้าหากอยากอ่านกฎกติการเพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่
รีวิวบาคาร่าออนไลน์อย่างละเอียด เจาะลึกครบทุกซอกทุกมุม!
หากชอบบทความที่ดี ๆ มีสาระแบบนี้อย่าลิมติดตามบทความอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของเราด้วยนะคะ และหากนักเดิมพันท่านไหนอยากทดลองบาคาร่า สามารถคลิ๊กที่นี่ เพื่อสมัครสมาชิกได้เลยค่ะ