Rooster Rumble เกมสล็อตค่าย PG ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการละเล่นไก่ชนที่ได้รับความนิยมไปทั่วเอเชีย แน่นอนว่าเราคนไทยที่ชอบทดลองเล่น สล็อต pg ย่อมคุ้นเคยการละเล่นไก่ชนกันมาตั้งแต่เด็ก เคยเข้าไปดูบ้าง เคยเห็นข่าวบ้าง หรือแม้แต่เคยนำไก่ไปชนเองเลยก็มี ซึ่งในปัจจุบันการละเล่นนี้ได้ผันกลายมาเป็นการเดิมพันอีกรูปแบบหนึ่งอีกด้วย
แต่เราจะทราบกันมั้ยคะว่าทำไมคนเค้าต้องเอาไก่มาชนกัน? หรือทำไมเค้าต้องเอาไก่มีสู้กัน แล้วมันได้รับอิทธิพลมาจากที่ไหน ใครเป็นคนริเริ่ม วันนี้ Lucabetkub จะมาเปิดประวัติตำนานไก่ชนให้คุณพี่ได้ทราบกันแล้วค่ะ
[ez-toc]
ย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน ไก่เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า หรือในปัจจุบันที่เราเรียกกันว่า ไก่ป่า แต่มนุษย์ได้นำไก่ป่ามาเลี้ยงเป็น ไก่บ้าน ซึ่งในประเทศจีนมีการเลี้ยงไก่กันมากว่า 3,000 ปี และที่กรุงโรม ประเทศกรีซได้พบหลักฐานว่ามนุษย์ได้มีการนำไก่มาเลี้ยงตั้งแต่สมัยก่อนคริสต์กาล แต่ว่ายังไม่มีการเลี้ยงจริงจังเหมือนเช่นในปัจจุบัน
การเลี้ยงไก่บ้านเริ่มมีกระบวนการในการเลี้ยง ดูแล รักษา อย่าจริงจังเมื่อราวๆ 100 ปี ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกพัฒนาจากไก่บ้านไปเป็น ไก่ชน นั่นเองค่ะ และเมื่อการละเล่นนี้ได้รับความนิยมในหมู่ชาวบ้าน ทำให้เกิดการวางเดิมพันเกิดขึ้น และกลายเป็นแรงจูงใจให้กับคนเลี้ยงไก่ที่สนใจเงินเดิมพันเล่านั้นนั่นเองค่ะ
ต่อมาเมื่อมนุษย์มีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น เนื้อไก่และไข่มีรสชาติอร่อย สามารถทานได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา และมีคุณค่าทางอาหารสูง ทำให้เนื้อไก่และไข่ไก่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และได้ขยายพันธุ์ไก่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ไก่ เป็นสัตว์มีปีกประเภทนก ซึ่งมีต้นตระกูลมาจากสัตว์เลื้อยคลาน ตามหลักฐานที่ปรากฏจากซากดึกดำบรรพ์ของนกชนิดแรกในโลกที่แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน เมื่อปี ค.ศ. 1861 โดยซากดังกล่าวมีอายุประมาณ 130 ล้านปีก่อน และมีลักษณะกึ่งนกกึ่งสัตว์เลื้อยคลาน คือ ปากมีฟัน มีเล็บยื่นออกมาจากปลายปีก และมีกระดูกหางยาว ซึ่งเป็นลักษณะของสัตว์เลื้อยคลาน แต่ในขณะเดียวกันก็มีขนคลุมลำตัวเช่นเดียวกับนก โดยชื่อทางวิทยาศาสตร์มีชื่อว่า “อาร์คีออพเทอริกซ์”
รู้หรือไม่คะว่า ในอดีต “ไก่ชน” เป็น มรดกไทย มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยไก่ชนมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธ์ที่สำคัญที่สุด ได้แก่ “ประดู่หางดำ” และ “เหลืองหางขาว” ซึ่งในสมัยกรุงสุโขทัย ไก่ชนประดู่หางดำพันธุ์แสมดำ ได้ชื่อว่า “ไก่พ่อขุน” เนื่องจากเป็นไก่ที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงโปรด
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงนำ “ไก่เหลืองหางขาว” จากบ้านกร่าง เมืองพิษนุโลก ไปชนชนะไก่ของพระมหาอุปราชาที่กรุงหงสาวดี ซึ่งไก่พันธุ์นี้นิยมเลี้ยงกันตามซุ้มเลี้ยงไก่ชนเพื่อเป็นไก่นำโชค และนิยมเรียกชื่อว่า “ไก่เจ้าเลี้ยง”
เนื่องจากประเทศไทยอยู่ใกล้อินเดีย จึงทำให้ไทยได้รับขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อทางศาสนา ตลอดจนศิลปะวิทยาการต่างๆ มาจากอินเดียหลายอย่าง ซึ่งมีความเชื่อกันว่า อาจจะเป็นไปได้ที่ไทยได้นำไก่ชนจากประเทศอินเดียมาเพาะเลี้ยง และมีการนำไก่ชนเข้ามาก่อนอังกฤษ เพราะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทรงใช้ไก่ชนดำเนินกลยุทธ์ทางการเมืองในประเทศอินเดียมาก่อนที่อินเดียจะเสียเอกราชให้อังกฤษ
อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นไปได้ว่า ไก่ชนของไทยมีมานานแล้วก่อนที่ไก่ชนพันธุ์อินเดียจะเข้ามา และไก่ชนสายพันธุ์อินเดียอาจจะเข้ามาในประเทศพร้อมกับวัฒนธรรม ศาสนาพราหมณ์ และประเพณีอื่นๆ ของอินเดีย
การต่อไก่ ชนไก่ และการฝึกไก่ มีปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เองก็มีการละเล่นเพลงปรบไก่ และการชนไก่ ในฤดูที่ว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรมเรื่อยมา จนกระทั่งมาถึงยุคสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ได้มีการส่งเสริมการทำสวนครัวและการเลี้ยงสัตว์ ได้นำไก่พันธุ์เล็กฮอร์น พันธุ์ออสตราลอฟ และพันธุ์โรดไอส์แลนด์เรด มาทำการผสมพันธุ์กับไก่ชนที่ชาวบ้านเลี้ยงกันอยู่แต่เดิม จนกลายเป็นไก่พันธุ์ทาง และยังประกาศให้เลิกเลี้ยงไก่ชนอีกด้วย
ในตอนนั้นไก่ชนสายเลือดบริสุทธิ์จึงเหลือน้อย และต้องแอบเลี้ยงกันในบางแห่งเท่านั้น ทำให้วงการไก่ชนของไทยซบเซาลงไปอย่างมาก แต่ในปัจจุบันการเลี้ยงไก่ชนแยกออกได้หลายประเภท เพื่อประโยชน์ต่างๆ ตามความนิยม เช่น เลี้ยงเพื่อการค้าโดยการขายเป็นพ่อพันธุ์ในราคาสูง หรือเพื่อการนำไปแข่งขัน และเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมในฟาร์มขนาดใหญ่เพื่อทำธุรกิจส่งออก เป็นต้น